สเก็ตบอร์ด ไม้กระดานติดล้อที่ยืนทรงตัวเพื่อใช้ในการเล่นให้สนุกสนานและใช้ในการเคลื่อนที่ หลักของการเคลื่อนที่ก็จะใช้เท้าถีบผลักให้สเก็ตกับตัวเราไปข้างหน้าพร้อมกันและการให้ลงเนินทางลาดชันตามแรงโน้มถ่วงของกฎฟิสิกส์และในช่วงยุค 80s สเก็ตบอร์ดได้ถูกนิยมเล่นในหมู่คนจำนวนมากเลยจึงถูกได้จัดเป็นประเภทกีฬาเอ็กซ์ตรีม
ประวัติสเก็ตบอร์ด
ในช่วงปี 1950s นักเล่นเซิร์ฟที่แคลิฟอเนียเกิดไอเดียใหม่ ที่จะเล่นเซิร์ฟบนพื้นคอนกรีต ด้วยการนำแผ่นเซิร์ฟไม้กระดานมาติดล้อ4ข้างบางคนสันนิษฐานว่าเป็นการประยุคให้เหมือนรถ soapbox และรองเท้าโรลเลอร์เก็ต ในช่วงนั้นเป็นสิ่งที่แปลกใหม่มาก
ในช่วงปี 1963s ก็มีบริษัทผลิตสเก็ตบอร์ดขึ้นมาในชื่อ มากาฮา
ได้จัดตั้งทีมสเก็ตบอร์ดขึ้นมาเพื่อสงเสริมโฆษณาแบร์นของตน และได้สนับสนุนนักสเก็ตอีกด้วย
ในปี1973-ปัจจุบัน สเก็ตบอร์ดได้พัฒนาด้วยการใช้ล้อยูรีเทน ซึ่งทำให้ปลอดภัยและคล่องตัวกว่า เดิมทีใช้ล้อที่ทำจากเหล็กและก้อนดิน และพัฒนากระดานสเก็ตให้มีขนาดกว้างขึ้นเป็น 24ซม. และเพิ่มลวดลายอาร์ตเวิร์คและกราฟฟิคเริ่มมามีบทบาทในวัฒนธรรมสเก็ตบอร์ดมากขึ้น และพัฒนาลวดลายและอุปกรณ์จนถึงปัจจุบัน
ส่วนประกอบของสเก็ตบอร์ด
สเก็ตบอร์ดนั้นมีส่วนประกอบโดยอาศัยหลักการเดียวกับรถ ผสมกับ กระดานเซิร์ฟบอร์ด ดังนั้นการเลี้ยวแบบรถ จึงต้องอาศัยการถ่ายน้ำหนักและการขันน็อตที่พอดี ไม่แข็งและอ่อนจนเกินไป แต่ส่วนนี้ขึ้นอยู่กับความชอบ และความถนัดของแต่ละคน ซึ่งเมื่อเป็นผู้เล่นใหม่ส่วนมากจะขันทรัคแข็ง เพื่อความสะดวกในการฝึกซ้อมท่าออลี่ หรือ กระโดด และ การเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ต้องอาศัยการไถ ซึ่งความเร็วขึ้นอยู่กับสภาพพื้น และ แบริ่ง หรือ ลูกปืน เช่นกัน ดังนั้นอุปกรณ์ต่างๆเราจึงจำเป็นต้องเรียนรู้ถึง ประโยชน์ และ ชื่อของมัน ซึ่งมีอยู่เพียง 7 ส่วนเท่านั้น
1.Deck แผ่นสเก็ตบอร์ด ส่วนสำคัญของสเก็ตเรียกว่า โนสกับเทล
พูดง่ายๆก็คือหัวกับท้าย แผ่นสเก็ตบอร์ดทำมาจากไม้เมเปิ้ล บางๆเจ็ดแผ่นมาประกบกัน มีความยืดหยุ่น เหนียวทนทาน และมีความเด้งเมื่อแผ่นไม้สำผัสกับพื้น แผ่นสเก็ตมีหลายขนาดตามความถนัดของผู้เล่นและขนาดร่างกาย มีตั้งแต่ขนาด 7.5"- 8.25" สำหรับผู้ที่ฝึกเล่นใหม่แนะนำให้ใช้ขนาด 8.0 นิ้ว เพราะแผ่นกว้างทำให้ง่ายต่อการยืนทรงตัว (ราคา 1000-2000 บาท)
พูดง่ายๆก็คือหัวกับท้าย แผ่นสเก็ตบอร์ดทำมาจากไม้เมเปิ้ล บางๆเจ็ดแผ่นมาประกบกัน มีความยืดหยุ่น เหนียวทนทาน และมีความเด้งเมื่อแผ่นไม้สำผัสกับพื้น แผ่นสเก็ตมีหลายขนาดตามความถนัดของผู้เล่นและขนาดร่างกาย มีตั้งแต่ขนาด 7.5"- 8.25" สำหรับผู้ที่ฝึกเล่นใหม่แนะนำให้ใช้ขนาด 8.0 นิ้ว เพราะแผ่นกว้างทำให้ง่ายต่อการยืนทรงตัว (ราคา 1000-2000 บาท)
2. Truck ทรัค หรือ แกนล้อ ทำหน้าที่เหมือนเพลารถไว้ใส้ล้อและยืดแผ่นสเก็ตให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งทรัคมีหลายแบบหลายขนาด ขนาดความกว้างต้องเท่ากับแผ่นสเก็ตที่เราใช้ด้วย และ มีน้ำหนักที่ต่างกันขึ้นอยู่กับยี่ห้อนั้น (ราคา1300-1800บาท)
3.Wheel ล้อ มีหน้าที่ไม่ต่างจากล้อรถเลยครับ และ ก็มีคุณสมบัติความทนทานต่างกันด้วย ซึ่งโดยส่วนตัวผมคิดว่ามันใช้ได้หมดนะครับ ไม่ต้องไปเน้นยี่ห้อก็ได้ เราดูสภาพของพื้นที่เราเล่น เพราะผมยอมรับเลยว่า ผมไม่เคยศึกษาเกี่ยวกับยี่ห้ออะไรเลย ขยันซ้อม ดีกว่าขยันซื้อ สำหรับผู้เล่นใหม่ มีล้อไหนใช้ล้อนั้นเลยครับ มันวิ่งได้ ก็จะมีขนาด 50มม.-55มม. (800-1800 บาท)
4.Bearing หรือ ลูกปืน เป็นส่วนช่วยเพิ่มความเร็วของล้อครับ มีหลายเบอร์ 3 5 7 9 ซึ่งความเร็วความลื่นก็ขึ้นอยู่กับเบอร์ และราคาก็ต่างกันไป เบอร์ยิ่งมาก ยิ่งมีความเร็วขึ้น และราคาก็สูงขึ้นไปตามเบอร์ แต่เพื่อแนะนำผู้เล่นใหม่ ถ้ามาตรฐานแบบ ประมาณเบอร์ 5 ก็พอครับ (200-1500บาท)
5.Grip Tape กริ๊ปเทป หรือ กระดาษทราย อีกด้านของกระดาษทรายจะเป็นเทปกาวเพื่อแปะกับแผ่นกระดานสเก็ต เป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณเล่นทริคต่างๆได้ เพราะมีหน้าที่ยึด และ เพิ่มแรงเสียดทานเสียดสีรองเท้าตอนกระโดดเพื่อให้ติดเท้าได้ดี ซึ่งมีผลดีกับรองเท้าหนังกลับ (200-300บาท)
(100-400บาท)
7.Hardware น๊อตยึดทรัค เมื่อคุณใส่ไรเซอร์ จะต้องใช้น็อตที่ยาวขึ้นกว่าปกติ น้อตแต่อย่างจะมีสีสันแตกต่างกันไปมีให้เลือกตามความต้องการของแต่ละคน ความหลากหลายของสี มีประโยชน์ในการจำ หัว และ หาง ของสเก็ตบอร์ด (100-350บาท)
____________________________________
การเลือกรองเท้าใส่เล่นสเก็ต
รองเท้ามีความสำคัญมากในการเล่นสเก็ตบอร์ด ถ้าจะดีก็ควรต้องเป็นหนังกลับเพราะเวลาที่จะ ออลี่(กระโดด) จะต้องใช้เท้าถูกับกระดาษทรายบนสเก็ตบอร์ดให้ติดขึ้นมา หนังกลับจะมีความทนทานกับการเสียดสีของกระดาษทรายมากที่สุด ระยะการใช้งานจะนานกว่ารองเท้าผ้าใบธรรมดา หรือใช้รองเท้าสเก็ตเลยก็ยิ่งดี เพราะรองเท้าสเก็ตถูกออกแบบมาให้คนเล่นสเก็ตได้ใช้ การออกแบบมาเพื่อรองรับแรงกระแทกได้ดี พื้นรองเท้ามีความนุ่มเป็นพิเศษ และทนทานกว่ารองเท้าทั่วไป ในปัจจุุบันรองเท้าสเก็ตจะใส่เล่นสเก็ตหรือใส่เป็นแฟชั่นก็ได้มองภายนอกก็จะดูเหมือน รองเท้าทั่วไปครับ
___________________________________
การเริ่มต้น
สิ่งแรกของการเริ่มต้นเล่นบอร์ดเราต้องรู้ว่าเราถนัดข้างไหนแต่ละคนจะถนัดไม่เหมือนกัน จะมีการยืนอยู่สองข้างก็คือ
-Regular ก็คือ ท่ายืนบนบอร์ด โดยการใช้เท้าซ้ายไม่ข้างหน้า
-Goofy ก็คือ ท่ายืนบนบอร์ด โดยการใช้เท้าขวาไว้ข้างหน้า
วีธีการหาข้างถนัดตัวเอง สิ่งแรกต้องขึ้นไปยืนบนบอร์ด ใช้เท้าสองข้างเหยียบบริเวณใกล้กับน็อต ยืนในแนวขนานข้าง จากนั้นลองไถไปทางขวา และ ไถไปทางซ้าย หากไถไปข้างไหนแล้วรู้สึกฝืนคุณจะไม่ถนัดข้างนั้น ก็แสดงว่าถนัดอีกข้าง จากนั้นก็ลองยืนและไถให้เกิดความเคยชินเวลายืนบนแผ่นสเก็ต
___________________________________
เบสิคพื้นฐานการ Tick-Tack
หลังจากที่เรารู้ข้างถนัดของตัวเองและทรงตัวบนแผ่นได้ประมาณนึงแล้ว ทักษะที่ควรฝึกต่อไปคือการ Tick-Tack ทักษะนี้จะช่วยให้เราไถไปข้างหน้าโดยที่ไม่ต้องเอาเท้าลงพื้น วิธีนี้จะช่วยให้เราทรงตัวบนสเก็ตได้ดี และเป็นพื้นฐานของการฝึกท่าต่อไป
วิธีการฝึก Tick-Tack นี้ในช่วงแรกจะรู้สึกฝืนและเกร็ง แต่ถ้าลองฝึกไปสักพักแล้วเราจะชินเอง และจับจังหวะได้เอง
1.ท่ายืน วิธีการยืนต้องเอาเท้าที่อยู่ข้างหลังเหยียบ Tail ส่วนเท้าหน้าจะเหยียบบริเวณน็อต หรือจะขยับวางสูงกว่าก็ได้ตามความถนัดของแต่ละคน
2.Tick-Tack ใช้เท้าหลังที่เหยียบ tail กดน้ำหนักลงเบาๆเพื่อให้ล้อที่อยู่ข้างหน้ายกขึ้นมา และใช้เท้าหน้าที่เหยียบน็อตประคองไว้จากนั้นยกไปทางซ้ายขวาสลับกันเรื่อยๆ โดยใช้การกางแขนเป็นตัวช่วงในการทรงตัว และเหวี่ยงไปทางซ้ายและขวา เทคนิคนี้จะช่วยเรื่องการเลี้ยวและการทรงตัวได้ดี
___________________________________
ออลี่ หรือ การกระโดด
ท่าออลี่ คือ การกระโดดโดยที่แผ่นสเก็ตจะติดเท้าขึ้นมา ท่านี้คือท่าที่
สำคัญที่สุด เพราะว่าพื้นฐานท่านี้เป็นท่าแรกในการฝึกท่าต่อไป
2.แล้วใช้เท้าหลังเหยียบกดลงที่เทลเพื่อให้แผ่นสเก็ตส่วนเทล กระแทกลงพื้น และสเก็ตจะกระดกขึ้น
3.ทันทีที่เราเหยียบเทลเพื่อให้แผ่นสเก็ตไปกระแทกกับพื้นแล้วจากนั้นใช้เท้าข้างหน้าปาดกับกระดาษทรายปาดไปทาง Nose และกระโดดตัวขึ้นทันทีและงอขากลางอากาศเพื่อให้สเก็ตติดเท้าขึ้นมา
*ท่านี้อาจจะต้องใช้เวลาและความอดทนหากจะกระโดดสูงๆต้องฝึก ซ้อมบ่อยๆให้ชินและจะสนุกไปกับมันเองครับ
___________________________________
การแข่งขันของสเก็ตบอร์ดหลักๆจะมี2ประเภทแต่ละประเภทสนามและการเล่นก็จะความต่างกันไป
ประเภทเวิร์ต (Vert)
จะเป็นการแข่งแบบสนามที่มีเนินความโค้งหรือลักษณะครึ่งวงกลมเรียกอีกอย่างก็แรมป์ เพื่อให้นักสเก็ตโชวลีลาการเล่นกับขอบของสนาม(แรมป์)และใช้แรงโน้มถ่วงจากเนินและความชันส่งตัวให้ลอยแล้วโชวลีลาท่าทางแข่งกัน
ประเภทสตรีท (Street)
Cr. https://th.wikipedia.org
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-อนุญาตแบบเดียวกัน 4.0 International.
